ดูแลฟันอย่างไรให้ห่างไกลอาการเสียวฟัน
ค้นหาตามหัวข้อการดูแลช่องปาก
หัวข้อที่ได้รับความสนใจอื่นๆ
เสียวฟันเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่ฟังดูไม่ร้ายแรง แต่ก็บั่นทอนจิตใจไม่น้อย คิดดูสิว่าอยากจะกินไอศกรีม บิงซู หรือสมูทตี้ให้ชื่นใจ แต่ฟันเจ้ากรรมกลับเกิดอาการเสียวแปล๊บจนทำให้หมดอร่อยไปในที่สุด แบบนี้ต้องหาต้นตอของอาการเสียวฟันให้พบ และหาทางป้องกันแต่เนิ่นๆ จะได้เคี้ยวอาหารอร่อยทุกคำ
อาการเสียวฟันนั้นเกิดขึ้นจากการที่สารเคลือบฟันบางลง หรือเหงือกร่นจนเผยให้เห็นพื้นผิวรากฟันที่อยู่ใต้เนื้อฟัน ซึ่งบริเวณเนื้อฟันนั้นจะมีรูหรือท่อจำนวนมากที่เชื่อมต่อด้านนอกของฟันไปยังศูนย์กลางเส้นประสาท ดังนั้น เมื่อสารเคลือบฟันบางลงจนเนื้อฟันเผยออกมา จึงทำให้ท่อเหล่านี้ถูกกระตุ้นจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรืออาหารบางชนิดได้ง่ายนั่นเอง จึงเป็นเหตุผลที่คนที่มีอาการเสียวฟันกินของร้อน ของเย็น ของเปรี้ยว ของหวาน แล้วทรมานกว่าคนอื่นนั่นเอง
ส่วนสาเหตุของการเสียวฟันนั้นเกิดได้จาก 6 สาเหตุหลัก ได้แก่
1. ภาวะเหงือกร่นเนื่องจากอายุที่มากขึ้น หรือการแปรงฟันที่ไม่เหมาะสม2. การดื่มเครื่องดื่มที่เป็นกรด เช่น โซดา น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ฯลฯ มากเกินไป จนเคลือบฟันถูกกัดกร่อนและเนื้อฟันเผยออกมา
3. การบดฟันก็อาจทำให้เกิดอาการรู้สึกเสียวฟันได้เช่นกัน
4. การแปรงฟันไม่ถูกวิธี และแปรงฟันบ่อยเกินไป ทำให้สูญเสียเคลือบฟันได้เร็วขึ้น จนเกิดอาการเสียวฟันตามมา
5. โรคเหงือก มีผลทำให้เหงือกร่นได้
6. ฟันบิ่นหรือหักจนเผยให้เห็นเนื้อฟัน
รู้ถึงสาเหตุของอาการเสียวฟันกันแล้ว ก็ควรหาทางป้องกันหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการเสียวฟัน ซึ่งทำได้ ดังนี้
1. เลือกใช้ยาสีฟันที่มีสารโปแตสเซียมไนเตรต (Potassium Nitrate) เพื่อช่วยบล็อคท่อฟัน ป้องกันไม่ให้เส้นประสาทถูกกระตุ้น ถือเป็นการช่วยบรรเทอาการเสียวฟันได้ดี2. เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม และแปรงฟันให้ถูกวิธี
3. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง
4. งดเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้รสเปรี้ยวและน้ำอัดลม
และไม่ว่าคุณจะมีอาการเสียวฟันหรือไม่ อย่าลืมพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากให้ถูกสุขลักษณะอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นวิธีลดโอกาสเสี่ยงของปัญหาในช่องปากต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ดีที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ https://bit.ly/2XXlDb6