Skip to main content

วิธีดูแลเหงือกให้แข็งแรง

วิธีดูแลเหงือกให้แข็งแรง

แม้ว่าคุณจะมีรอยยิ้มที่สดใส หรือฟันของคุณจะสวยแค่ไหน แต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องสุขภาพภายในช่องปาก เหงือกของคุณก็นับว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะปัญหาเกี่ยวกับเหงือก(โรคเหงือก)จะส่งผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพช่องปากของคุณ ถึงว่าคุณจะไม่มีปัญหาฟันผุ และมีฟันที่ขาวสะอาดก็ตาม ซึ่งโรคที่เกี่ยวกับเหงือกก็ยังอาจเกิดขึ้นกับคุณได้ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทันระวังกับปัญหาที่เกี่ยวกับเหงือก เพราะปัญหาเหล่านี้มักจะไม่แสดงเจ็บปวดในเบื้องต้น เพื่อป้องกันการเกิดอาการเจ็บ/ปวดเหงือก มีหนองที่เหงือก หรือฟันหลุด คุณควรให้ความสนใจและเริ่มต้นดูแลเหงือกของคุณตั้งแต่วันนี้

โรคเหงือกคืออะไร

การสะสมของคราบพลัคตามแนวเหงือกเป็นสัญญาณแรกหรือจุดเริ่มต้นของโรคเหงือก/ปัญหาเกี่ยวกับเหงือก คราบพลัคคือคราบที่เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียจนเป็นคราบเหนียวติดบริเวณเหงือกและร่องฟัน คราบพลัคจะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่ทำลายเหงือกและฟันให้ฟันผุได้ ในระยะเริ่มต้นของโรคเหงือกอักเสบที่เกิดจากคราบพลัค เหงือกของคุณจะมีลักษณะดังนี้:

เหงือกแดง

เหงือกมีอาการแพ้ และระคายเคือง

มีเลือดออกง่ายบริเวณเหงือก

เหงือกมีอาการบวม

เหงือกมีลักษณะอักเสบ

ระยะเริ่มต้นของโรคเหงือกอักเสบ กระดูกและเนื้อเยื่อบริเวณนั้นยังสามารถมีโอกาสฟื้นตัวได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณก็มีโอกาสเป็นโรคปริทันต์หรือโรคเหงือกอักเสบรุนแรงได้เช่นกัน ซึ่งโรคปริทันต์หรือเหงือกอักเสบขั้นรุนแรงจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระดูกและฟัน หากปล่อยทิ้งไว้ เหงือก เนื้อเยื่อ และกระดูกที่รองรับฟันบริเวณนั้นจะถูกทำลาย

โรคปริทันต์ หรือโรคเหงือกอักเสบขั้นรุนแรงถือเป็นระดับสุดท้ายของโรคนี้ จะส่งผลในการทำลายเส้นใยและโครงสร้างกระดูกที่รองรับฟัน ซึ่งจะกระทบโดยตรงต่อการบดเคี้ยว และอาจจำเป็นต้องถอนฟันในที่สุด

เคล็ดลับ 5 ข้อในการดูแลเหงือกให้แข็งแรง

นี่คือเคล็ดลับ/วิธีดูแลเหงือกให้แข็งแรงสำหรับคุณ

1. ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้ง

อย่าลืมใช้ไหมขัดฟันทุกวัน โดยเฉพาะถ้าคุณมีฟันเกที่แปรงสีฟันของคุณไม่สามารถเข้าถึงได้ การใช้ไหมขัดฟันจะช่วยขจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง คุณสามารถใช้ไหมขัดฟันช่วงเวลาไหนของวันก็ได้ ไม่ว่าจะเป้นช่วงเช้า หลังอาหารกลางวัน หรือตอนกลางคืน

2. แปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้สขภาพที่ดีของเหงือกและฟัน การแปรงฟันช่วยขจัดเศษอาหารและคราบพลัคที่ติดอยู่ระหว่างฟันและเหงือกของคุณ การใช้ แปรงสีฟันที่ถูกออกแบบมาเพื่อการดูแลเหงือกโดยเฉพาะอย่าง แปรงสีฟันดาร์ลี่ เอ็กซ์เปิร์ต กัม แคร์ ด้วยขนแปรงที่แน่นและนุ่มเป็นพิเศษ จะช่วยลดแรงกดหรือแรงเสียดทานได้ถึง 50% อ่อนโยนต่อเหงือก และช่วยให้ปากสะอาดล้ำลึก

3. เลือกยาสีฟันที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ต้นเหตุของกลิ่นปาก

ตรวจสอบให้แน่ใจ ว่ายาสีฟันที่คุณเลือกใช้มีฟลูออไรด์ เพราะฟลูออไรด์ สามารถช่วยป้องกันฟันผุได้ แต่เท่านั้นยังไม่พอ ควรเลือกยาสีฟันที่ช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย ต้นเหตุของกลิ่นปาก อย่างยาสีฟันดาร์ลี่ เกลือ เฟรช ที่มีส่วนผสมของเกลือคริสตัล ซอร์ทจากนิวซีแลนด์ ที่อุดมด้วยแร่ธาตุกว่า 13 ชนิด พร้อมดับเบิ้ลมิ้นต์สกัดเข้มข้น ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียต้นเหตุกลิ่นปาก พร้อมวิตามินอี ช่วยเสริมสร้างสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง ให้ลมหายใจหอม สดชื่น ไปพร้อมๆกัน

4. กินอาหารที่เหมาะสม ช่วยเสริมสร้งเหงือกที่แข็งแรง

การรับประทานหอมแดง ต้นหอม และหอมหัวใหญ่ มีส่วนช่วยในการต่อต้านแบคทีเรียในช่องปากได้ เพราะในหอมแดง ต้นหอม และหอมหัวใหญ่อุดมไปด้วยสารต้านแบคทีเรีย ซึ่งจะส่งผลช่วยปกป้องกันเหงือกของคุณได้อีกด้วย

นอกจากนี้ คุณควรบริโภคผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า เพราะในผักใบเขียวเป็นแหล่งที่มีวิตามินซีสูง สาช่วยลดอาการอักเสบของเหงือกได้

รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม เช่น น้ำนม ชีส และโยเกิร์ต เป็นแหล่งที่มีโปรตีน เคซีนสูง จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่ซึกหรอ และช่วยป้องกันการสูญเสียของเนื้อเยื่อและเคลือบฟันได้

5. ควรเลิกสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเกิดโรคเหงือก/ปัญหาเกี่ยวกับเหงือก ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) การสูบบุหรี่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณเสื่อมลง ซึ่งทำให้ยากต่อการต่อสู้กับโรคเหงือก นอกจากนี้การสูบบุหรี่ทำให้เหงือกที่บาดเจ็บฟื้นตัวได้ช้าและยากขึ้น ผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ สามารถเพิ่มความเสี่ยงของบุคคลได้ และไม่ดีต่อสุขภาพโดยรวมของคุณ

การดูแลรักษาเหงือกให้แข็งแรง

1. รักษานิสัยการดูแลสุขภาพช่องปากอยู่เป็นประจำ

การดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีทุกวันจนเป็นกิจวัตร สามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงโรคเหงือกได้ การแปรงฟันวันละสองครั้ง ใช้น้ำยาบ้วนปาก และใช้ไหมขัดฟันเป็นวิธีที่ดีในการทำให้เหงือกของคุณแข็งแรง อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่เหมาะกับคุณ เพื่อให้คุณดูแลช่องปากอย่างมีประสิทธิภาพและรู้สึกสบายกับกิจวัตรประจำวันมากขึ้น

2. พบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

ปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น และพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละสองครั้งเพื่อป้องกันปัญหาโรคเหงือกอย่างมีประสิทธิภาพ ทันตแพทย์จะทำการตรวจฟัน ขจัดหินปูน และสามารถระบุได้ว่าคุณกำลังประสบปัญหาเหงือกและฟันอยู่หรือไม่ ช่วยให้คุณสามารถป้องกันการเกิดโรคเหงือกได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

เคล็บลับการดูแลช่องปาก
/
สุขภาพเหงือก
/
วิธีดูแลเหงือกให้แข็งแรง